ประเภทของเปียโน่
เป็นเปียโนมาตรฐานที่ใช้ในการแสดงที่เป็นทางการ
(หรือถ้าใครมีไว้ซ้อมที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ขึ้นอยู่กับความไฮโซส่วนบุคคล :))
มีหลายขนาด โดยยิ่งยาว เสียงจะยิ่งดีกว่าตัวสั้นครับ ถ้าไม่ยาวมาก เช่นประมาณ 4-5
ฟุต อาจจะเรียกว่า เบบี้แกรนด์ (Baby Grand) ซึ่งก็จะเหมาะสำหรับไว้ซ้อมหรือคอนเสิร์ตเล็กๆ
มากกว่า แต่ถ้ายาวกว่านั้นก็จะเรียกได้ว่าแกรนด์เปียโนครับ
โดยแกรนด์เปียโนบางตัวที่ใช้แสดงคอนเสิร์ตอาจยาวถึง 9
ฟุตเลยทีเดียว

เปียโนอัพไรท์ (Upright
Piano)
เปียโนไฟฟ้า (Digital piano)
เปียโนไฟฟ้า (Digital Piano)
ทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า
เครื่องดนตรีไฟฟ้าที่มีคีย์สีดำๆ ขาวๆ และกดมีเสียงได้
ไม่ได้เรียกว่าเปียโนไฟฟ้าทุกตัวนะครับ บางอันมีคีย์ไม่ถึง 88
คีย์และบางอันก็ทำเสียงดัง-เบาไม่ได้ (ทำเสียงดัง-เบา หมายถึงกดแรงเสียงดัง
กดค่อยเสียงเบานะครับ ไม่ใช่ปรับเสียงดัง-เบา)
ถ้าเป็นอย่างที่ว่าข้างต้นผมจะไม่เรียกว่าเปียโนไฟฟ้าละกันครับ
เรียกเป็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าดีกว่าจะได้ไม่สับสน
ผมจะเรียกเปียโนไฟฟ้าก็ต่อเมื่อเครื่องนั้นมีคีย์ครบ 88
คีย์ ขนาดของคีย์เท่าเปียโนจริง และสามารถทำกดแรงเสียงดัง กดค่อยเสียงเบาได้ครับ
เปียโนไฟฟ้าใช้ไฟฟ้าและแผงวงจรสังเคราะห์เสียงออกมา
ไม่ได้ใช้กลไกแบบเปียโนจริงๆ (ที่ว่าเปียโนจริงๆ หมายถึงเปียโนที่เป็นกลไกทั้งหมด
ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า) ถึงแม้ตรงคีย์บอร์ดสำหรับกดจะดูเหมือนๆ กัน
แต่เนื่องจากโครงสร้างและกลไกภายในไม่เหมือนกัน เวลาเล่นจะรู้สึกถึงสัมผัส
แรงที่ใช้กด ความเด้ง ความหนืด ไม่เหมือนกัน
(ถึงแม้เปียโนไฟฟ้าจะพยายามทำให้คล้ายแล้วแต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนอยู่ดีครับ :(
โดยส่วนมากแล้วเปียโนไฟฟ้าจะกดง่ายกว่า ใช้แรงน้อยกว่า)
อันนี้จึงเป็นข้อจำกัดที่สำคัญที่ทำให้เปียโนไฟฟ้าไม่เหมาะสำหรับผู้ที่จะเล่นเปียโนเป็นจริงเป็นจัง
เนื่องจากสัมผัสไม่เหมือนกันหรือที่เรียกว่า Touching ไม่เหมือนกันครับ
(ปล. ขนาดเปียโนจริงๆ คนละตัว คนละรุ่น Touching ยังไม่เหมือนกันเลยครับ)

สำหรับการจัดเรียงคีย์บนเปียโน ให้ดูในหมวด Musical
keyboard การจัดเรียงเช่นนี้ได้แบบมาจาก harpsichord
โดยไม่ผิดเพี้ยน เว้นแต่สีของลิ่มคีย์ (สีขาวสำหรับเสียงปกติ
และสีดำสำหรับชาร์ป sharps) ซึ่งกลายมาเป็นมาตรฐานสำหรับเปียโนในตอนปลายศตวรรษที่
18
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
ตอบลบ